เปลี่ยน Google Docs นิ่งๆ ให้เป็นพื้นที่ทำงานอัจฉริยะ ด้วยฟีเจอร์ “Smart Chips”
เปลี่ยน Google Docs นิ่งๆ ให้เป็นพื้นที่ทำงานอัจฉริยะ ด้วยฟีเจอร์ “Smart Chips”
ในการทำงานยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นภาคธุรกิจหรือภาคการศึกษา เอกสาร (Document) ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นเพียงกระดาษดิจิทัลสำหรับบันทึกข้อความอีกต่อไป แต่กำลังเปลี่ยนบทบาทไปสู่การเป็นศูนย์กลางการทำงานร่วมกัน (Collaboration Hub) ที่เชื่อมโยงข้อมูล ผู้คน และตารางงานเข้าด้วยกัน
วันนี้เราขอแนะนำฟีเจอร์ “Smart Chips” (ชิปอัจฉริยะ) บน Google Docs เครื่องมือที่จะช่วยเปลี่ยนเอกสารแบบเดิมๆ ให้มีชีวิตชีวาและทำงานได้ชาญฉลาดยิ่งขึ้น ภายใต้แนวคิด Smart Canvas ของ Google Workspace
Smart Chips คืออะไร?
Smart Chips คือชุดคำสั่งพิเศษที่ฝังอยู่ใน Google Docs (และ Google Workspace อื่นๆ) ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถดึงข้อมูลเชิงลึก เชื่อมโยงไฟล์ หรือสร้างเครื่องมือโต้ตอบต่างๆ ลงในหน้าเอกสารได้ทันที โดยไม่ต้องสลับหน้าจอไปมา ช่วยลดความซ้ำซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการงาน
วิธีเรียกใช้งาน Smart Chips
การเข้าถึงฟีเจอร์นี้ทำได้ง่ายและรวดเร็วผ่าน 2 ช่องทางหลัก :

ผ่านเมนู “แทรก” (Insert): ไปที่แถบเมนูด้านบน เลือก “แทรก” > “ชิปอัจฉริยะ” (Smart Chips) แล้วเลือกประเภทชิปที่ต้องการ

ผ่านปุ่มลัด “@” (At sign): เพียงพิมพ์เครื่องหมาย @ ลงในบรรทัดที่ต้องการ ระบบจะแสดงเมนู Dropdown ขึ้นมาให้เลือกคำสั่งทั้งหมดทันที วิธีนี้เป็นวิธีที่รวดเร็วและเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ใช้งานระดับโปร
ฟีเจอร์เด่นของ Smart Chips ที่ช่วยยกระดับการทำงาน
จากการอัปเดตล่าสุด Smart Chips มีความสามารถที่หลากหลายและครอบคลุมการทำงานหลายด้าน ดังนี้:
1. การจัดการเวลา (Time Management)
เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการทำกิจกรรมในชั้นเรียน หรือการประชุมระดมสมอง (Brainstorming)
- ตัวจับเวลา (Timer): ตั้งเวลานับถอยหลังบนหน้าเอกสาร เพื่อกำหนดกรอบเวลาในการทำกิจกรรม
- นาฬิกาจับเวลา (Stopwatch): จับเวลาเดินหน้า เพื่อวัดความเร็วในการทำงานหรือทำข้อสอบ

2. การสำรวจความคิดเห็น (Voting Chips)
เปลี่ยนเอกสารให้อินเทอร์แอคทีฟด้วยชิป “โหวต” ผู้ใช้งานสามารถสร้างโพลสำรวจความคิดเห็นในตารางงานได้ทันที ความพิเศษคือสามารถ “เปลี่ยนอีโมจิ” เป็นรูปต่างๆ (เช่น หัวใจ, นิ้วโป้ง, ไฟ) เพื่อให้การโหวตมีสีสันและสื่อความหมายได้ตรงจุดประสงค์มากขึ้น

3. การติดตามสถานะงาน (Project Management)
ด้วยชิป “เมนูแบบเลื่อนลง” (Dropdown) เราสามารถสร้างป้ายกำกับสถานะงาน เช่น “ยังไม่เริ่ม”, “กำลังดำเนินการ”, หรือ “เสร็จสิ้น” (สามารถปรับแต่งข้อความและสีได้เอง) ช่วยให้ทุกคนในทีมเห็นความคืบหน้าของงานได้ชัดเจนในหน้าเดียว
4. การเชื่อมโยงข้อมูล (Data Integration)
Smart Chips ช่วยให้เอกสารเชื่อมต่อกับโลกภายนอกได้อย่างไร้รอยต่อ:
- ชิปผู้คน (People): แสดงข้อมูลติดต่อ อีเมล และบทบาทของผู้เกี่ยวข้อง
- ชิปสถานที่ (Place): ฝัง Google Maps ลงในเอกสาร เพื่อดูพิกัดสถานที่จริง
- ชิปไฟล์เอกสาร (Files): ลิงก์ไปยังไฟล์อื่นๆ ใน Google Drive พร้อมแสดงตัวอย่าง (Preview) โดยไม่ต้องกดเปิดหน้าต่างใหม่
- ชิปวันที่ (Date): ระบุวันและเวลาเพื่อง่ายต่อการนัดหมายผ่านปฏิทิน

บทสรุป
การนำ Smart Chips มาประยุกต์ใช้ ไม่เพียงแต่ทำให้หน้าตาของเอกสารดูทันสมัยและเป็นระเบียบเท่านั้น แต่ยังช่วยเปลี่ยนวิธีการทำงานของทีมและห้องเรียนให้เป็นระบบ (Systematic) ลดขั้นตอนการค้นหาข้อมูล และกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมร่วมกันอย่างแท้จริง